พระผงองค์บรมครู เสด็จปู่มหาพรหมเทพจอปกาศิต รุ่นแรก ...
อ.ธรรมนูญ บุญธรรมสำนักสักยันต์บัวแปดกลีบ สร้างราวปี 2525 - 2526

จะมีสองเนื้อ คือ
-- เนื้อว่าน สีน้ำตาล
-- เนื้อผงเก่าสำนัก สีขาวครีม

อ. นูญ เล่าว่าเนื้อสีน้ำตาลนี้ ผิดจากที่ท่านตั้งใจไว้ ท่านตั้งใจว่าจะให้เนื้อออกสีขาว ให้สมกับที่เรียกท่านว่า ชีปะขาว องค์ท่านก็ควรจะสีขาว

แต่ช่างผสมมวลสาร ใส่แต่ว่านลงไป ทำให้เนื้อเป็นสีน้ำตาล
และ ได้กดเป็นองค์เสด็จปู่ ขึ้นมาได้เพียงร้อยองค์เศษ

อาจารย์เห็นเนื้อผิดจากที่ตั้งใจไว้ จึงให้ช่างผสมใหม่ จนได้เนื้อที่ต้องการ สีออกขาวครีม ๆ

เมื่อเวลาผ่านไป เนื้อว่าน พระจะหดตัวนิดนึง
ทั้ง 2 เนื้อ ใช้บล็อกเดียวกัน ประวัติศาสตร์เล่ารื่องราว.
องค์เสด็จปู่มหาพรหมจอประกาศิต
ท่านเป็นอริยพรหมชั้นสูงที่คอยดูแลรักษา
พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์นามว่า " หลวงพ่อขาว "
ที่ประดิษฐานอยู่ ณ วัดประสาท อ.รัตนชัย จ.พระนครศรีอยุธยา
ท่านเป็นพรหมฝ่ายปราบปราม เช่นเดียวกับท่านท้าวมหาพรหมชินะปัญชะระ

ซึ่งองค์เสด็จปู่มหาพรหมเทพจอประกาศิต
เป็น " พรหม " ที่ปกปักพิทักษ์พระพุทธรูปพระนาม "หลวงพ่อขาว" สถิต ณ วิหารประจำวัดประสาท หลวงพ่อขาว เป็นพระพุทธรูปศิลปะอยุธยา
ฝีมือช่างแบบชาวบ้าน ขนาดหน้าตักประมาณเมตรเศษ ทาสีขาวมุกทั้งพระองค์จึงเป็นที่มาของพระนาม "หลวงพ่อขาว"

สมัยก่อนไม่มีใครทราบว่าหลวงพ่อขาวท่านศักดิ์สิทธิ์เพราะเหตุใด จะบนบานศาลกล่าวหรือ
ขอเมตตาในเรื่องใด ก็มักสำเร็จเป็นอัศจรรย์
สร้างความเคารพเลื่อมใสให้แก่ลูกหลานเมือง
กรุงเก่า โดยเฉพาะคนแถบตลาดหัวรอ

โดยมีเรื่องเล่าครั้งได้พบท่านว่า
มีคณะผู้เฒ่าผู้แก่ที่ไปรักษาอุโบสถศีลที่วัดประสาท โดยอาศัยวิหารหลวงพ่อขาวเป็นที่พัก
แต่ยามค่ำคืนหาได้สวดมนต์เจริญภาวนาแต่อย่างใด กลับเอาแต่จับกลุ่มกินหมากปากแดงล้อมวงคุยกันแต่เรื่องโลก เรื่องลูก เรื่องหลาน สารพัดจะสรรหามาคุย ครู่ต่อมา ก็ปรากฏชายชราสวมชุดขาวคล้ายนักบวชหนวดเครายาวขาวเป็นปุยฝ้าย
แต่หน้าตาดูดุดันถมึงทึงคล้ายโกรธจัด
เดินดุ่ม ๆ ตรงออกมาจากหลังองค์หลวงพ่อขาว
มาถึงก็ตะลุยเข้ากลางวงแล้วเตะโครมเข้าที่เชี่ยนหมากกระจัดกระจาย พลางดุด่าว่า
"วันอุโบสถแทนที่จะมารักษาศีลภาวนา กลับเอาแต่คุยเรื่องไร้สาระ อย่างนี้จะมาอยู่วัดไปทำไมให้หนวกหูคนอื่น…"

เล่นเอาซะวงแตก

ในขณะนั้น ท่านอาจารย์ทองหล่อ ก็ได้ไปปฏิบัติธรรมถือศีล 8 ในวันพระที่วัดเป็นประจำ ก็ได้อยู่ในเหตุการณ์ด้วย ท่านรู้สึกขุ่นเคืองตาแก่ชุดขาวคนนั้น พอเกิดความรู้สึกอย่างนั้นขึ้น ท่านย่าเฒ่าที่ได้ทราบถึงวาระจิต ก็มาสื่อสารกับท่านเดี๋ยวนั้นว่าให้ไปขอขมาท่านเสีย ท่านเป็นอาจารย์ของท่านย่าเฒ่าเอง จึงได้ทราบว่าเป็น " พรหม " ที่รักษาองค์หลวงพ่อขาว และมิใช่พรหมในฝ่ายเมตตามหาลาภอย่างที่ใครๆ นึกฝันจะไปขอโน่นนั่นนี่ กันให้สนุกใจ แต่เป็น " พรหม " ฝ่ายปราบปรามคล้ายความเชื่อของศิษย์ที่มีต่อ " ท่านท้าวมหาพรหมชินปัญชะระ " ว่าเป็นพรหมฝ่าย "บู๊" ที่พิทักษ์พระพุทธศาสนา คอยดูแลอารักขาพระภิกษุผู้ปฏิบัติดีดำรงอยู่ในศีลสามัญญตาและผู้ปฏิบัติธรรมทั้งปวง
องค์เสด็จปู่ฯ ท่านก็เช่นนั้น ถึงคราวดุท่านก็ดุเหลือใจ ถึงคราวเมตตาสงเคราะห์ศิษย์ท่านก็ทำให้ ไม่สำเร็จไม่มีคำว่าเลิก แบบนี้เรียกว่าคนจริง

อภินิหารของ " เสด็จปู่มหาพรหมจอปกาศิต " นั้นคนรุ่นเก่าแถบตลาดหัวรอรู้กันดี เมื่อท่านอาจารย์ทองหล่อ พงษ์แพทย์ ได้นั่งสมาธิติดต่อกับท่านจนทราบว่าท่านสถิตย์อยู่ที่ใด และเป็นใคร ยิ่งภายหลังเสด็จปู่ฯ ได้รับอาจารย์ทองหล่อเข้าเป็นศิษย์และถ่ายทอดวิชาให้ ก็ยิ่งทำให้ความผูกพันใกล้ชิดของทั้งสองท่านแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เป็นที่รู้กันว่า
ท่านอาจารย์ทองหล่อนั้นให้ความเคารพนับถือ
และมีความรักความผูกพันในองค์เสด็จปู่ฯ มากมายราวพ่อกับลูกโดยสายเลือด ทำให้ความรู้สึกเช่นนี้สืบต่อแบบรุ่นสู่รุ่นไปสู่ศิษย์คนอื่นๆ อีกด้วย
โดยเฉพาะก้นกุฏิของท่านอาจารย์ทองหล่ออย่าง...อาจารย์ธรรมนูญ บุญธรรม ด้วยเหตุนี้ ในสมัยก่อนวัดประสาทจึงมีความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับสำนักบัวแปดกลีบนี้ จนในยุคปัจจุบัน เมื่อทางสำนักได้จัดสร้างวัตถุมงคล
เกือบทุกครั้งจะต้องมาปลุกเสก ณ วิหารหลวงพ่อขาวแห่งนี้ เพราะทั้งองค์เสด็จปู่ และอัฐิอดีตครูบูรพาจารย์ของสำนักก็อยู่วัดประสาทที่นี้

อาจารย์ธรรมนูญให้ความเคารพนับถือพอๆ กับความยำเกรงในองค์บรมครูท่านนี้เป็นอย่างมาก ครั้งที่หล่อพระรูปเหมือนขององค์ท่านเมื่อหลายสิบปีก่อน ท่านก็ปรารภแบบ "ดุ" กับอาจารย์ธรรมนูญว่า " หล่อครั้งนี้พอแล้วนะ กูไม่เอากับพวกมึงแล้ว "

ซึ่งครั้งนึงเกือบ10ที่แล้วที่วัดประสาทนี้ เคยมีรูปเหมือนบูชาขนาดเกือบเท่าคนจริงของเสด็จปู่ประดิษฐานอยู่ภายในพระวิหาร ต่อมาได้ถูกกลุ่มวัยรุ่นโจรกรรมอุ้มขึ้นรถเก๋งหายไป

ยังไม่ส่ง ข้อมูลยืนยันตัวตน